กล้วยหอมคาเวนดิช หรือ กล้วยหอมเขียวคาเวนดิช ต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศคอสตาริก้าและประเทศบราซิล นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการส่งออกไปต่างประเทศ กำลังได้ความนิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะมีการรับประกันราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 บาท และขายหน้าสวนให้ผู้รับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 8 บาท ทำให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกมีรายได้อย่างงามกับการปลูกพืชนี้
นายวิชา มานะดี อดีต ผอ.สพป.นม.เขต 2 เจ้าของกลุ่มปลูกกล้วยบ้านสระจันทร์ เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อนข้าราชการครู คือ นายสุพจน์ ติสันเทียะ ผอ.รร.ชลประทานบ้านกอโจด และ นายวิระพจน์ โคกเกษม ผอ.รร.ศรีสุขวิทยา ได้ลงทุนด้วยกันบนเนื้อที่ 50 ไร่ ที่บ้านหนองบอน หมู่ที่ 6 ต.ด่านเกวียน อ.เมือง และ อ.จักราช จ.นครราชสีมา ในการปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช สายพันธุ์วิลเลียม 32 เป็นกิจกรรมที่เรามองว่า ชีวิตหลังเกษียณ รายได้จะลดลง และต้องหาอะไรทำ เพื่อไม่ให้ชีวิตดูน่าเบื่อ
และสิ่งที่คิดครั้งแรกคือ การทำการเกษตร เพราะอยากจะดำเนินรอยตามเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงเลือกที่จะปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช เนื่องจากคนยังปลูกยังไม่เยอะ ราคาตอบแทนค่อนข้างดี และเป็นกล้วยที่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูง เนื่องจากว่ามีการส่งเสริม สนับสนุน การรับซื้อที่ชัดเจน กลุ่มตลาดของทางสวนมีลูกค้าอยู่ ไม่ว่าจะเป็น จีน อิรัก และดูไบ ซึ่งทางสวนจะต้องเตรียมออเดอร์ส่งออกประเทศละ 22 ตัน ตามความต้องการของลูกค้า ส่วนรายได้นั้นเป็นที่หน้าพอใจเป็นอย่างมาก
กล้วยหอมคาเวนดิช เป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนชื้น การปลูกต้องมีระยะห่าง 2 คูณ 2 เมตร รถน้ำวันละครั้ง เมื่อต้นโตแล้วและออกผลในช่วงเดือนที่ 8 ให้เตรียมถุงไว้คลุมเครือกล้วย และฟองน้ำรองระหว่างหวี เพื่อไม่ให้กดทับและมีรอยช้ำ ป้องกันความเสียหาย และป้องกันแมลงมากินเกสร หลังจากนั้นเดือนที่ 10 ก็สามารถตัดออกมาจำหน่ายได้ ซึ่งอายุต้นกล้วยจะสามารถใช้งานได้ 3-5 ปี แล้วแต่การดูแลของเกษตรกร ส่วนจุดเด่นของกล้วยหอมคาเวนดิช จะมีเปลือกหนา เนื้อแน่น มีใยอาหารสูง หวานไม่มาก เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ หากใครสนใจจะซื้อพันธุ์เพื่อไปปลูกจะอยู่ต้นละ 35 บาท หรือต้องการความรู้เพิ่มเติม สามารถโทรสอบถามได้ที่ นายสุพจน์ ติสันเทียะ 083-3788105
