ผู้ว่าฯโคราชเดินหน้าขอรับคืนพื้นที่รอบศาลหลักเมือง จากผู้เช่าอาคารวัดพระนารายณ์ เตรียมทุบตึกปรับภูมิทัศน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถาน ขณะที่ผู้เช่ายินยอมคืนพื้นที่ให้ก่อนครบกำหนดสัญญาในปี 2564
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 61 ที่บริเวณศาลหลักเมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาเป็นประธานในการแถลงข่าวรับมอบสิทธิ์คืนพื้นที่จากผู้เช่าอาคารวัดพระนารายณ์ เพื่อขยายพื้นที่ศาลหลักเมืองนครราชสีมา ให้ประชาชนสามารถจอดรถภายในวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร และเดินมายังศาลหลักเมืองได้สะดวก
โดยมี พระสีหะราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา รองเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร และ นางวันเพ็ญ ตั้งสุวรรณ ญาติผู้เช่าอาคารที่คืนสิทธิ์ ร่วมแถลงข่าว และลงนามยินยอมคืนพื้นที่เช่าให้กับวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหารด้วย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การรับมอบสิทธิ์คืนพื้นที่จากผู้เช่าในครั้งนี้ สืบเนื่องจากวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร มีความประสงค์จะนำที่ดินบริเวณอาคารพาณิชย์ ตามหนังสือสัญญาเช่าดังกล่าว มาใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่เนื่องจากอาคารพาณิชย์ดังกล่าวติดสัญญาเช่ากับ นางวรรณา ตั้งสุวรรณ ซึ่งสัญญาเช่าจะสิ้นสุดในปี 2564
ซึ่งนางวรรณา ตั้งสุวรรณ ในฐานะผู้เช่าเห็นว่า จะมีการนำที่ดินดังกล่าวไปใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงมีความประสงค์ยกเลิกสัญญาเช่าฉบับดังกล่าวก่อนครบสัญญา เพื่อให้วัดพระนารายณ์ฯ ดำเนินการทุบ รื้อถอนอาคารดังกล่าว และนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ในโครงการขยายพื้นที่บริเวณศาลหลักเมือง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมต่อไป
ภายหลังการส่งมอบอาคาร จะมีกระบวนการดำเนินงานโดยการตั้งคณะกรรมการวัด และศาลหลักเมือง เพื่อสรุปแนวทางในการทุบ และรื้อถอน ซึ่งกระบวนการดังกล่าว ต้องเป็นไปตามหลักวิธีการ โดยเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก และหากการรื้อถอนมีผลต่ออาคารข้างเคียง เช่น รอยร้าว หรือชำรุด ก็จะมีการซ่อมแซมให้มีสภาพเหมือนเดิม ส่วนอาคารที่อยู่ติดกันรวม 12 คูหา 8 เจ้าของ ซึ่งครบสัญญาเช่าแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาขอคืนที่ดิน แต่ยังตกลงกับผู้เช่าไม่ได้ หลังจากนี้ก็จะให้ทางวัดพระนารายณ์ฯ เป็นผู้ดำเนินการเจรจาต่อไป
สำหรับศาลหลักเมืองนครราชสีมา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2480 ปัจจุบันคณะกรรมการพัฒนาศาลหลักเมือง มีแนวคิดในการขยายพื้นที่บริเวณศาลหลักเมืองนครราชสีมา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดฯ โดยมีการปรับภูมิทัศน์ ให้มีความสวยงาม เท่าที่สามารถทำได้ตามพื้นที่ที่มี ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรแล้ว ทั้งการขยายบันไดทางขึ้นศาลหลักเมือง เพื่อลดความแออัด และการทาสีเพื่อเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีขาว เพื่อให้เกิดความสวยงามมากยิ่งขึ้น
