แบ่งปัน
เอไอเอส เดินหน้าตามโครงการ “เอไอเอส สร้างอาชีพคอลล์เซ็นเตอร์แด่ผู้พิการ” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิด “ศูนย์ปฏิบัติการ เอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการทางสายตา” ขึ้นเป็นแห่งที่ 13 ณ มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สาขาจังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.61

นางวิไล เคียงประดู่ หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงนโยบายในการจัดทำโครงการเพื่อสังคมของเอไอเอสว่า“เอไอเอสให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR (Corporate Social Responsibility) มาโดยตลอดรวมถึงการสร้างคุณค่าและประโยชน์ร่วมกันระหว่างองค์กรและสังคม หรือ CSV (Creating Shared Value) เพื่อสร้างมูลค่าและการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่องค์กรและสังคมไปพร้อมๆ กันโดยการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศไทยให้มีคุณภาพและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ครอบครัว และสังคมไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง”

ซึ่งในสังคมประกอบไปด้วยครอบครัวและประชาชนหลากหลายประเภทหนึ่งในนั้นคือผู้พิการที่เอไอเอสให้ความสำคัญ และดูแลมาอย่างต่อเนื่องเพราะเอไอเอสเชื่อว่าผู้พิการก็มีศักยภาพไม่ต่างจากคนปกติและมีความมุ่งมั่นในการทำงาน จนสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้เอไอเอสจึงจัด โครงการ “เอไอเอส สร้างอาชีพ คอลล์ เซ็นเตอร์แด่ผู้พิการ” ขึ้น โดยเริ่มจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการ เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์แด่ผู้พิการ” แห่งแรกเมื่อปี พ.ศ.2550 และขยายจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน มีศูนย์ปฏิบัติการฯแล้ว จำนวน 13 แห่งโดยที่มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาจังหวัดนครราชสีมาแห่งนี้ เป็นศูนย์ฯ ล่าสุด”

ทางด้าน นางใจพร ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์คอนแท็คเซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอไอเอสเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนพิการที่มีผลการทำงานในระดับที่ดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากคนปกติทั้งในแง่ของการให้บริการและความพึงพอใจของลูกค้าเอไอเอสจึงเดินหน้าขยายศูนย์ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งมอบโอกาสสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้นโดยศูนย์ฯ ที่เปิดให้บริการแห่งนี้มีพนักงานผู้พิการทางสายตาปฏิบัติงานอยู่จำนวน 10 คนซึ่งนับเป็นแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมาทำให้ปัจจุบันมีพนักงานเอไอเอส คอลล์เซ็นเตอร์ผู้พิการจากศูนย์ปฏิบัติการที่เปิดให้บริการแล้ว รวมจำนวนทั้งสิ้น 123 คนโดยเอไอเอสได้ออกแบบงานให้คนกลุ่มนี้อย่างเหมาะสม

เพื่อการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับความสามารถ อาทิผู้พิการทางสายตาและพิการทางร่างกายจะมีหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อสอบถามความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานหรือบริการต่างๆ ของเอไอเอส ส่วนผู้พิการทางการได้ยินจะให้บริการด้วยภาษามือผ่านทาง Web Cam เป็นต้น

นอกจากนี้เอไอเอสยังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการปฏิบัติงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน อาทิ ติดตั้งโครงข่ายออนไลน์,นำเทคโนโลยีดักจับความเคลื่อนไหวที่คีย์บอร์ดหรือสิ่งที่แสดงผลบนหน้าจอ และเปลี่ยนเป็นเสียงพูดซึ่งต้องใช้ควบคู่กับโปรแกรมตาทิพย์จากสถาบันคนตาบอดแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น”

“เอไอเอสพร้อมที่จะนำเทคโนโลยี ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญรวมทั้งศักยภาพขององค์กรมาช่วยเหลือสังคมและสร้างโอกาสทางด้านอาชีพให้แก่คนไทยทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้พิการซึ่งถือเป็นหนึ่งสมาชิกของครอบครัวในสังคมไทยได้เป็นจำนวนมากเพราะเราเชื่อว่าหากทุกคนได้รับโอกาสในการแสดงศักยภาพของตนเองก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกคนแข็งแรง ส่งผลให้ครอบครัวไทยแข็งแรงประเทศไทยแข็งแรง อย่างยั่งยืนต่อไป” นางวิไล กล่าวสรุป

แบ่งปัน